Categories
News

ดูดเหนียง อันตรายไหม

ดูดเหนียง อันตรายไหม การดูดไขมันเหนียง หากทำโดยแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอ หรือใช้วิธีการไม่เหมาะสม ก็อาจจะส่งผลให้เกิดการไม่กระชับ เนื้อเยื่อเกิดการเสียหาย เกิดรอยช้ำเขียวเป็นเวลานาน และมีผลกับระบบเลือดและน้ำเหลืองทำให้ฟื้นตัวช้า

ส่วนภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ในการ ดูดไขมันเหนียง โดยทั่วไปนั้น มักไม่ได้เกิดจากการดูดไขมันโดยตรง แต่เกิดจากการให้ยาสลบ และยาชา ซึ่งขึ้นอยู่กับสุขภาพร่างกายของผู้ดูดไขมัน และการเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมของแพทย์

ดูดไขมันเหนียงได้จริงเหรอ
การฉีดโบท็อกซ์ (Botox) เป็นการเสริมความงามโดยการฉีดสารโปรตีนซึ่งสร้างจากเชื้อแบคทีเรียชื่อ คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium botulinum) เพื่อช่วยยกกระชับผิวหนังให้เต่งตึง ไม่หย่อนคล้อย

อย่างไรก็ตาม การฉีดโบท็อกซ์จะยังไม่ได้เห็นผลชัดทันทีที่ฉีดเข้าไป แต่ต้องรอประมาณ 1-2 สัปดาห์ จึงจะเริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงนั่นคือ กรอบใบหน้าเริ่มชัดขึ้น เหนียงใต้คางเริ่มกระชับกว่าเดิม แต่สารโบท็อกซ์จะออกฤทธิ์อยู่ได้ประมาณ 6 เดือน หลังจากนั้นหากต้องการยกกระชับผิวหนังให้กลับมาเต่งตึงอีกครั้ง ก็ต้องมาฉีดโบท็อกซ์อีกเรื่อยๆ

การฉีดเมโสแฟต (Meso Fat)
การฉีดเมโสแฟต เป็นการฉีดสารวิตามิน สารเอนไซม์ หรือสารฮอร์โมนเพื่อเข้าไปสลายไขมันบริเวณจุดต่างๆ ของร่างกาย แต่ส่วนที่นิยมฉีดมากที่สุดคือ บริเวณเหนียง ระยะเวลาการเห็นผลจากการฉีดเมโสแฟตจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังจากฉีด และสารจะออกฤทธิ์อยู่ได้ประมาณ 2-6 เดือน

หลังจากนั้นหากต้องการจะฉีดเมโสแฟตเพื่อสลายไขมันอีก ก็สามารถมาเข้ารับการฉีดกับแพทย์ได้อีกตามความเหมาะสม นอกจากฉีดเพื่อลดเหนียงแล้ว การฉีดเมโสแฟตยังมีจุดเด่นด้านการลดรอยเซลลูไลท์ และริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณใบหน้าด้วย

การร้อยไหม (Thread Lifting)
เป็นอีกเทคนิคยอดนิยมที่หลายคนเลือกใช้เพื่อยกกระชับใบหน้าที่หย่อนคล้อย มีไขมันส่วนเกิน ผ่านการใช้เส้นไหมร้อยบริเวณใต้ผิวผิวหนัง เพื่อกระตุ้นให้ผิวหน้าสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ มีการไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ทำให้ผิวหน้าแต่งตึง ดูเรียวไม่หย่อนตามไขมันส่วนเกิน รวมถึงส่วนเหนียงด้วย

หลังจากผ่านไปประมาณ 2 เดือนหลังจากร้อยไหม ใบหน้าจะกระชับมากขึ้น และจะอยู่ได้ประมาณ 2 ปี จากนั้นไหมจะค่อยๆ สลายหายไปภายในเวลาประมาณ 8 เดือน

การทำ HIFU
การทำไฮฟู่ คือ การใช้คลื่นอัลตราซาวด์ยิงเข้าไปใต้ชั้นผิวหนังเพื่อทำลายเนื้อเยื่อชั้นระดับลึก ทำให้ชั้นผิวหนังดังกล่าวหดตัว และมีการสร้างคอลลาเจนใหม่เพิ่มขึ้นมาใหม่ จึงทำให้ผิวหน้ากระชับกว่าเดิม เหนียงใต้คางไม่หย่อนยานจนเห็นชัด ทั้งยังลดคางสองชั้น และริ้วรอยแห่งวัยได้ ไม่ทำให้รู้สึกระคายเคือง หรือแสบร้อน แต่ก็ขึ้นอยู่กับระดับพลังงานที่ยิงเข้าไปใต้ชั้นผิวหนังด้วย ซึ่งหากต้องใช้พลังงานสูง แพทย์จะมีการให้ยาชาเพื่อลดอาการแสบร้อนระหว่างทำ